เต็นท์รีสอร์ต

การท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งที่ใกล้ชิดธรรมชาติได้สัมผัสกับธรรมชาติต่างๆ มากมาย แค่ฟังและได้เห็นรูปการไปแคมป์ปิ้งก็ทำให้หลายๆ คนนั้นอยากออกไปแคมป์ปิ้งกันบ้าง แต่การไปแคมป์ปิ้งต้องอาศัยทั้งเวลาและกำลังกายที่แข็งแรงเพื่อที่จะเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ได้ ร่วมไปถึงต้องทนความลำบากในการใช้ชีวิตในการแคมป์ปิ้งอยู่บ้าง ดังนั้นมีอีกหลายคนที่ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ แต่ยังอยากเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งอยู่สามารถทำแบบไหนได้บ้างนะ 

มารู้จักกับการท่องเที่ยวแบบ แกลมปิ้ง (Glamping) กันเถอะ

คำว่า แกลมปิ้ง (Glamping) เกิดขึ้นมาจากคำ 2 คำที่ผสมกันอยู่ก็คือ 1. Glamour (มีเสน่ห์) และ2. Camping (แคมป์ปิ้ง) มีความหมายองค์รวมว่า การท่องเที่ยวแคมป์ปิ้งที่มีเสน่ห์ แต่จริงๆ แล้ว การท่องเที่ยวแบบแกลมปิ้งนั้นคือการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งที่เป็นการเข้าพักในเต็นท์รีสอร์ตขนาดใหญ่ที่มีความสะดวกสบายเหมือนพักในโรงแรมทั่วไปแต่ได้กลิ่นอายการนอนพักในเต็นท์แบบการไปแคมป์ปิ้งอยู่ อาจจะเรียกได้ว่าการท่องเที่ยวแบบ แกลมปิ้ง (Glamping)คือการท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งรูปแบบหนึ่งที่มีที่หรูหราและสะดวกสบายเพิ่มเติมเข้ามา สามารถทำให้คนที่ไม่มีเวลาหรือสุขภาพที่ดีพอที่จะไปแคมป์ปิ้งได้ได้นอนในเต็นท์รีสอร์ตเพื่อสัมผัสบรรยากาศทดแทนได้ 

ทำไมต้องเลือกพักในเต็นท์รีสอร์ต 

1.สามารถสัมผัสบรรยากาศแคมป์ปิ้งได้ 

สามารถสัมผัสบรรยากาศการได้ใกล้ชิดธรรมชาติและการนอนในเต็นท์ได้ โดยการนอนผ่านเต็นท์รีสอร์ตขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกของการนอนในเต็นท์แบบการออกไปแคมป์ปิ้งได้ โดยที่ไม่ต้องออกแรงเดินทางไกลหรือเผชิญสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่คุ้นเคยในแบบการไปแคมป์ปิ้งจริงๆ  

2.สามารถกำหนดวันเวลาที่เข้าพักได้ด้วยตัวเองและมีความสะดวกสบาย 

สามารถกำหนดทุกๆ อย่างได้ด้วยตนเอง แตกต่างจากการไปแคมป์ปิ้งที่ต้องร่วมกันกำหนดสิ่งต่างๆ ร่วมกันเพราะต้องเดินทางไปกับผู้ร่วมแคมป์ปิ้งมากกว่าหนึ่งคนเป็นอย่างน้อย แต่กับการนอนในเต็นท์รีสอร์ตสามารถเดินทางไปคนเดียว กำหนดวันพักเองได้ รวมไปถึงได้รับความสะดวกสบายไม่แพ้การพักในโรงแรม 

3.เกือบทุกเพศทุกวัยสามารถพักในเต็นท์รีสอร์ตได้ 

สามารถพาคุณพ่อ คุณแม่ หรือทุกๆคนในบ้านไปพักแรมด้วยกันได้ ไม่เหมือนกับการไปแคมป์ปิ้งจริงๆ ที่ต้องมีร่างกายแข็งแรงและเวลาที่สามารถไปพักได้อย่างสบาย การพักในเต็นท์รีสอร์ตจึงเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ของครอบครัวได้ดีทีเดียว 

ข้อจำกัดของเต็นท์รีสอร์ต 

1.มีรูปแบบของเต็นท์ให้เลือกน้อยกว่า  

การเลือกรูปแบบของเต็นท์รีสอร์ตนั้นทำได้น้อย เพราะมีรูปแบบของเต็นท์ไม่กี่แบบเท่านั้น ซึ่งอาจจะน้อยกว่าเต็นท์ที่ไปแคมป์ปิ้งโดยทั่วไป 

2.ไม่ได้กางเต็นท์ด้วยตัวเอง 

เนื่องด้วยเต็นท์ที่มีขนาดที่ใหญ่และมีเครื่องอำนวยความสะดวกสบายมากมาย จึงไม่สามารถปล่อยให้ลูกค้ากางเต็นท์กันเองได้ จึงไม่ได้รับประสบการณ์กางเต็นท์แบบการไปแคมป์ปิ้งธรรมดาได้ 

3.ไม่สามารถขยับเขยื้อนเต็นท์เองได้ 

ด้วยน้ำหนักที่มากและการกางเต็นท์ต้องใช้ทักษะและวิธีการต่างๆในกางเต็นท์เพราะมีเครื่องอำนวยความสะดวกรวมถึงระบบต่างๆ มากมาย ดังนั้นจึงไม่สามารถขยับเปลี่ยนตำแหน่งของเต็นท์เองได้ 

4.สถานที่ที่ให้บริการมีจำกัด 

ในพื้นที่บางแห่งไม่มีบริการเต็นท์รีสอร์ตดังนั้นจึงไม่สามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดได้ ยังมีการให้บริการที่ยังไม่เพียงพอในแหล่งท่องเที่ยวบางพื้นที่อยู่